การดำเนินคดีข้อหาบุกรุก มีแนวทางอย่างไร - ทนายนิธิพล

52 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การดำเนินคดีข้อหาบุกรุก มีแนวทางอย่างไร - ทนายนิธิพล

            การดำเนินคดีข้อหาบุกรุก: ความรู้พื้นฐานทางกฎหมายและแนวทางปฏิบัติ

            ความหมายของการบุกรุกตามกฎหมาย การบุกรุก (Trespassing) ถือเป็นการกระทำที่บุคคลหนึ่งเข้าไปหรืออยู่ในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน อาคาร หรือพื้นที่ส่วนบุคคลอื่นใด โดยไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมายหรือไม่มีเหตุอันสมควร การกระทำเช่นนี้นอกจากจะสร้างความไม่สงบและละเมิดสิทธิของเจ้าของทรัพย์สินแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือข้อพิพาทที่ร้ายแรงในทางกฎหมายอีกด้วย ซึ่งในประเทศไทยมีบทบัญญัติกฎหมายที่ชัดเจนในการควบคุมและลงโทษการกระทำลักษณะดังกล่าว

             กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
             ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
               ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของบุคคลอื่นเพื่อเข้าครอบครองทรัพย์สินนั้นทั้งหมดหรือบางส่วน หรือเข้าไปในทรัพย์สินนั้นเพื่อกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองโดยสงบสุขของบุคคลนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
             ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365
              ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 362 มาตรา 363 หรือมาตรา 364 ได้กระทำ
              (1) โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย
              (2) โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือ
              (3) ในเวลากลางคืน
              ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

              การดำเนินคดีข้อหาบุกรุกสามารถดำเนินการได้ดังต่อไปนี้

               แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ – เมื่อเกิดเหตุการณ์บุกรุก ผู้เสียหายควรรีบดำเนินการแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุโดยทันที พร้อมนำหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด พยานบุคคล หรือเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินมาประกอบ
               การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ – เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบปากคำผู้ร้อง พยาน และผู้ถูกกล่าวหา รวมถึงลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์และรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ
               ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ – หากเห็นว่ามีมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจัดทำสำนวนคดีและส่งต่อให้พนักงานอัยการเพื่อพิจารณาฟ้องร้องต่อศาล
               กระบวนการในศาล – เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยจะมีโอกาสแสดงพยานหลักฐานและให้การตามสิทธิของตน
บทลงโทษตามกฎหมาย

              แนวทางการป้องกันการบุกรุก

               ติดตั้งป้ายเตือนชัดเจน – เช่น ป้าย "ห้ามบุกรุก" หรือ "ทรัพย์สินส่วนบุคคล" โดยติดไว้ในจุดที่เห็นได้ชัดเจนบริเวณรอบพื้นที่ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการป้องกันและใช้เป็นข้ออ้างประกอบคดี
               ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) – เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์หากมีการบุกรุกเกิดขึ้น และใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นสอบสวนหรือในศาล
               ปรึกษาทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมาย – เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิและแนวทางดำเนินคดี รวมถึงการจัดการเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย


               ปรึกษาสำนักงานทนายนิธิพล ปรึกษาฟรีในเบื้องต้นไม่มีค่าใช้จ่าย

                โทร: 095-453-4145 (ปรึกษาฟรี 5 นาที ในเบื้องต้น)

                 ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
        
              #ทนายคดีบุกรุก #ทนายสู้คดีบุกรุก #ทนายความ #สำนักงานกฎหมาย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้