Last updated: 26 ต.ค. 2564 | 15744 จำนวนผู้เข้าชม |
ในกรณีที่มีการโอนเงินผิดบัญชี แล้วได้ทีการติดต่อให้ผู้ที่รับโอนคืนเงินแล้ว แต่ทางเจ้าของบัญชีผู้รับโอนกลับเพิกเฉยๆ และนำเงินที่ได้มานั้นไปใช้เอง โดยไม่ทำการส่งคืนเจ้าของนั้น ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานความผิดยักยอกทรัพย์ มาตรา 352 “ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2539
เจ้าหน้าที่ของธนาคารผู้เสียหายได้นำเงินฝากจำนวน 60,000 บาท ของลูกค้ารายอื่นเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยโดยผิดพลาดและจำเลยรู้แล้ว การที่จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินดังกล่าวออกไปจากบัญชีของจำเลยเป็นการเบียดบังเอาเงินนั้นไปโดยทุจริตจึงเป็นความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง
ดังนั้น หากบุคคลใดได้ทำการโอนเงินผิดบัญชีต้องปฎิบัติดังนี้
1. รวบรวมหลักฐานการโอนเงินต่างๆ เช่น สลิปการโอนเงิน
2. รีบดำเนินการติดต่อธนาคารต้นทางที่ทำการโอนไป เพื่อแจ้งปัญหาและสอบถามวิธีขอคืนเงิน และให้ธนาคารติดต่อไปยังผู้รับโอน ให้ทำการคืนเงินกลับมา หรืออนุญาตให้ธนาคารดึงเงินในบัญชีกลับไป ซึ่งธนาคารไม่สามารถดึงเงินจากบัญชีผู้รับโอนโดยพลการได้ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้รับโอนปลายทางก่อน
3. หากผู้รับโอนยินดีคืนเงิน ธนาคารก็จะดำเนินการโอนเงินจำนวนนั้นคืนให้แก่เรา
4. หากผู้รับโอนไม่ยอมคืนเงิน ผู้โอนจะต้องแจ้งความดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์ ซึ่งมีโทษจำคุก ตามกฎหมายต่อไป
ทนายนิธิพล สำนักงานกฎหมายนิธิลอว์แอนด์วิน
รับว่าความทั่วราชอาณาจักร ปรึกษากฎหมายฟรี
ติดต่อ ทนายนิธิพล โทร 095-453-4145