พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560

                   มาตรา 4  บุคคลใดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

                    ( 1 ) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้

                    ในปัจจุบันมีเจ้าหนี้นอกระบบจำนวนมาก และส่วนมากจะคิดดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด ซึ่งดอกเบี้ยตามกฎหมาย ได้ระบุไว้ว่า “ ต้องไม่เกิน ร้อยละ 15 ต่อปี หรือ ร้อยละ 1.25 ต่อเดือน  ”  แต่ส่วนใหญ่ เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือบางคนคิดจำนวนดอกเบี้ยมากกว่านี้  ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

                    ดังนั้นหากเจอเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินตามที่กฎหมายกำหนดจะต้องปฎิบัติดังนี้   

                    1. แจ้งความกับตำรวจให้เอาผิดกับทางเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด โดยโทษทางกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

                    2. หากเจ้าหนี้มีการฟ้องคดีต่อศาลกับลูกหนี้ ตามสัญญากู้ยืมเงิน ดอกเบี้ยที่เจ้าหนี้ได้กำหนดไว้ จะตกเป็นโมฆะ ไม่สามารถเรียกดอกเบี้ยกับลูกหนี้ได้ เจ้าหนี้จะเรียกให้ชำระได้เพียงเงินต้นคืนเท่านั้น เช่น นาย ก. กู้ยืมเงินนาย ค จำนวน 10,000 บาท  คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน  มีกำหนดชำระคืน 1 ปี เมื่อครบกำหนดชำระ นาย ค. จะฟ้องเรียกให้นาย ก. คืนเงินต้น จำนวน 10,000 และดอกเบี้ย อีก 12,000 บาท  ดังนั้น นาย ก. จะต้องสู้คดีว่า นาย ค. คิดดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด  ให้ดอกเบี้ย 12,000 บาท นั้นตกเป็นโมฆะ เมื่อดอกเบี้ยตกเป็นโมฆะแล้ว นาย ก. ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน 12,000 บาท ให้นาย ค.  แต่อย่างใด นาย ก. ต้องจ่ายเฉพาะเงินต้นจำนวน 10,000 บาทเท่านั้น

                     3. ในกรณีที่ ลูกหนี้ จ่ายดอกเบี้ยเกินจำนวนที่กู้ยืมเงินมาแล้ว และเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด  ลูกหนี้ไม่จำเป็นต้องจ่ายอีกต่อไป เพราะดอกเบี้ยตกเป็นโมฆะ เงินที่จ่ายไปสามารถเอามาทบเป็นเงินต้นได้เลย เช่น  นาย ข กู้ยืมเงิน นาย ง จำนวน 10,000 บาท โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน เมื่อ นาย ข. ชำระดอกเบี้ยไปทั้งหมดจำนวน 10,000  บาท ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ยหรือเงินต้นคืนแต่อย่างใด และหาก นาย ง. ฟ้องคดีต่อศาล ก็ต้องสู้คดีตามกฎหมายต่อไป และไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับนาย ง เพราะถือว่านาย ข. ได้ชำระเงินครบถ้วนแล้ว

                                                4. ในกรณีที่เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด และหากลูกหนี้ได้ชำระเงินคืนให้แก่เจ้าหนี้ เกินจำนวนหนี้ที่ระบุไว้ในสัญญาไปเรียบร้อยแล้วลูกหนี้ไม่สามารถที่จะฟ้องเรียกร้องเงินคืนจากเจ้าหนี้ได้ เพราะเป็นการที่ลูกหนี้ชำระหนี้ตามอำเภอใจ เช่น นายดำ เป็นหนี้ นายแดง 10,000 บาท โดยนายแดง คิดดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด แต่นายดำได้ชำระเงินให้ นายแดงไปเป็นจำนวนเงิน  20,000 บาทแล้ว นายดำจะเรียกเงินคืนจากนายแดง อีก 10,000 บาท ที่เกินมา ไม่ได้ เพราะถือว่านายดำได้ชำระหนี้ตามอำเภอใจ   

ทนายนิธิพล สำนักงานกฎหมายนิธิลอว์แอนด์วิน
รับว่าความทั่วราชอาณาจักร ปรึกษากฎหมายฟรี
ติดต่อ ทนายนิธิพล โทร 095-453-4145