บุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวอาจตกเป็นบุคคลล้มละลาย - ทนายนิธิพล

                     การเป็นบุคคลล้มละลายนั้นมีสาเหตุจากการที่เรามีหนี้สินมาก เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้เงินกู้ หนี้สินทางธุรกิจ และไม่มีทรัพย์สินพอที่จะชำระหนี้ จนทำให้ไม่สามารถชำระหนี้คืนกับเจ้าหนี้ได้ เมื่อไม่สามารถชำระหนี้เหล่านั้นได้จึงถูกเจ้าหนี้ฟ้องล้มละลาย

              โดยเจ้าหนี้จะฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลายได้ก็ต่อเมื่อ 
                      1.  ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว คือ มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินที่มี ไม่มีความสามารถที่จะชำระหนี้ได้
                      2. ลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา เป็นหนี้เจ้าหนี้ไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท
                      3. ลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นหนี้เจ้าหนี้ไม่น้อยกว่า 2,000,000 บาท

              เมื่อตกเป็นบุคคลล้มละลายจะมีผลต่อกระทบต่อการดำเนินชีวิต คือ

                      1. ไม่สามามารถทำนิติกรรมสัญญาใดๆ ได้ และไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ เช่น ไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคาร ทำการโอนเงิน หรือทำการถอนเงิน

                      2. ไม่สามารถดำรงตำแหน่งในบริษัทได้ เช่น เป็นกรรมการ เป็นหุ้นส่วน เว้นแต่หากมีความจำเป็นจะขออนุญาตจากศาล

                      3. ไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ เว้นแต่ หากมีความจำเป็น จะต้องขออนุญาตเจ้าพนักงานพิทักทรัพย์สินเสียก่อน และจะได้หรือไม่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจเจ้าพนักงานพิทักทรัพย์เป็นหลัก

              ระยะเวลาที่จะหลุดพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลาย

              มีระยะเวลาในการปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลาย มีระยะเวลา 3 ปี ยกเว้นไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่หรือเจ้าหนี้ อาจจะขยายระยะเวลาเป็น 5 - 10 ปี เมื่อครบกำหนดลูกหนี้ต้องไปร้องขอปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลายกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สิน เพื่อขอปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลาย และเมื่อปลดแล้วก็สามารถทำนิติกรรม ทำธุรกรรมต่างๆได้

ทนายนิธิพล สำนักงานกฎหมายนิธิลอว์แอนด์วิน
รับว่าความทั่วราชอาณาจักร ปรึกษากฎหมายฟรี
ติดต่อ ทนายนิธิพล โทร 095-453-4145