122991 จำนวนผู้เข้าชม |
พ่อแม่โอนที่ดินให้ลูก ต่อมาพ่อหรือแม่อยากได้ที่ดินคืนสามารถทำได้หรือไม่
การให้ คือ สัญญาซึ่งบุคคล เรียกว่า ผู้ให้โอนทรัพย์สินของตนให้โดยเสน่หาแก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับ และผู้รับยอมรับเอาทรัพย์สินนี้ และการมอบให้นั้นจะต้องไม่ได้หวัง สิ่งตอบแทนแต่อย่างใด เช่น แม่ยกบ้านพร้อมที่ดินให้ลูกโดยเสน่หา โดยการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินเรียบร้อย โดยที่ลูกไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนอะไรให้แม่ ดังนั้น จึงเรียกว่าเป็นการมอบให้โดยเสน่หา
แล้วจะทำอย่างไรหากแม่ต้องการอยากได้ที่ดินคืนจากลูก ซึ่งอยู่ดีๆเมื่อแม่โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านไปให้ลูกแล้ว แม่อยากจะเรียกที่ดินคืนจากลูกไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก การให้โดยเสน่หา เมื่อให้กันแล้วจะไม่สามารถถอนคืน หรือ เรียกคืนได้ หากการให้นั้นชอบด้วยกฎหมาย แต่จะมีข้อยกเว้นที่สามารถเรียกคืนได้ คือ
การประพฤติเนรคุณ มีลักษณะดังนี้
(1) ถ้าผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดฐานอาชญาอย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา เช่น ทำร้ายร่างกาย
(2) ถ้าผู้รับได้ทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง เช่น นาย ก. มอบที่ดินให้ นาข ข. โดยเสน่หา ต่อมา นาย ก. เจ็บป่วยไปขอความช่วยเหลือจาก นาย ข. นาย ข. ไม่พอใจพร้อมพูดว่า “ บักหมามึงแก่แล้ว พูดจากลับไปกลับมาเหมือนเด็กเล่นขายของ มึงไม่มีศีลธรรม มึงไปตายที่ไหนก็ไป ” ถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาท นาย ก. อย่างร้ายแรง จึงมีเหตุประพฤติเนรคุณที่นาย ก.จะจะเรียกคืนที่ดินกับนาย ข. ได้
(3) ถ้าผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถจะให้ได้ เช่น แม่โอนบ้านพร้อมที่ดินให้แก่ลูก โดยการเปลียนแปลงชื่อในโฉนดเรียบร้อยแล้ว แต่แม่ก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้น ต่อมาลูกกลับขับไล่แม่ออกจากบ้านพฤติกรรมของลูกก็ถือว่าประพฤติเนรคุณแล้ว ดังนั้นแม่สามารถเรียกร้องบ้านพร้อมที่ดินคืนจากลูกได้
ระยะเวลาในการฟ้องร้องคดีถอนการให้โดยเสน่หา
1. มีระยะเวลา 6 เดือนนับจากที่รู้ หรือ
2. ภายใน 10 ปี นับจากเหตุประพฤติเนรคุณนั้นได้เกิดขึ้น
ทนายนิธิพล สำนักงานกฎหมายนิธิลอว์แอนด์วิน
รับว่าความทั่วราชอาณาจักร ปรึกษากฎหมายฟรี
ติดต่อ ทนายนิธิพล โทร 095-453-4145